ตราแห่งความจริง: เครื่องแบบที่ถูกฝังไว้เปิดเผยแผนการสมคบคิดที่เก่าแก่หลายสิบปีและนำฆาตกรมาสู่กระบวนการยุติธรรม


เริ่มต้นวันใหม่เช่นเดียวกับวันอื่นๆ ในเขตอัลโอลายยาของริยาด แสงแดดสาดส่องลงมายังไซต์ก่อสร้าง เสียงจอบเสียดสีเป็นจังหวะเดียวกับเสียงดินกระทบดิน ทันใดนั้น การค้นพบอันแปลกประหลาดก็ทำลายความซ้ำซากจำเจนั้น คนงานคนหนึ่งชื่อมาห์มูด อัล-ซาห์รานี กำลังขุดฐานรากสำหรับอาคารหลังใหม่ ทันใดนั้นเครื่องมือของเขาดันไปกระทบกับอะไรบางอย่างที่อ่อนนุ่มแต่กลับทนทานอย่างน่าประหลาด มันไม่ใช่หินหรือเศษซาก แต่มันคือเศษผ้าสีน้ำเงินเข้ม แทบมองไม่เห็นใต้ดิน ขณะที่เขากำลังคุกเข่าลงสำรวจ วัตถุโลหะชิ้นเล็กๆ ส่องประกายระยิบระยับในแสงแดด หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อตระหนักว่ามันคืออะไร: ตราตำรวจ

ไม่นานนัก ทีมเจ้าหน้าที่ก็ลงไปยังพื้นที่ดังกล่าว โดยมีเทปสีเหลืองปิดกั้นพื้นที่ไว้ นี่ไม่ใช่การค้นพบง่ายๆ แต่มันคือแผลเปิดที่เน่าเปื่อยมานานถึง 13 ปี ตราสัญลักษณ์ซึ่งมีหมายเลขกำกับไว้อย่างชัดเจน เป็นของเจ้าหน้าที่อามินา อัล-ฮาร์บี ตำรวจหญิงผู้ทุ่มเทซึ่งหายตัวไปในปี 1991 เรื่องราวอย่างเป็นทางการคือเธอลาออกจากตำแหน่งโดยสมัครใจ เพราะไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันจากงานได้ อย่างไรก็ตาม ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวกลับถูกฝังอยู่ที่นี่มาโดยตลอด


นักสืบไลลา อัล-กาห์ตานี หญิงสาวผู้มีชื่อเสียงในด้านความตรงไปตรงมาในคดีอาญา ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ สายตาของเธอจับจ้องไปที่หลุมขุดค้น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ค่อยๆ ยกชุดเครื่องแบบที่เหลืออยู่ขึ้นอย่างระมัดระวัง พบป้ายชื่อทองเหลืองที่ขุดขึ้นมา โดยหมายเลข 1247 ยังคงอ่านได้ชัดเจน มือที่สวมถุงมือของไลลาสั่นเทาขณะถือหลักฐานชิ้นนั้น ชื่อที่หล่อนใช้คือ อามีนา อัล-ฮาร์บี เป็นชื่อที่เธอเคยได้ยินคนกระซิบกันมาตั้งแต่สมัยที่รับราชการใหม่ๆ เรื่องราวการหายตัวไปอย่างกะทันหัน คดีที่ปิดลง และการลาออกอย่างเงียบๆ แต่บัดนี้ ความจริงอันเย็นชาเริ่มปรากฏชัด อามีนาไม่ได้ลาออก เธอถูกฝัง

ด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งกร้าวในแววตา ไลลาจึงหันไปหาผู้บังคับบัญชา “ฉันต้องการเอกสารคดีเก่าๆ ทันที โดยเฉพาะรายงานการหายตัวไปจากปี 1991” เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่การสืบสวนธรรมดาๆ แต่มันคือการเผชิญหน้ากับวิญญาณในอดีต และกับผู้ชายที่ไม่สนใจที่จะค้นหาความจริงที่ถูกขุดคุ้ย


ความโศกเศร้าไม่รู้จบของครอบครัว

เช้าวันรุ่งขึ้น ไลลาพบว่าตัวเองยืนอยู่หน้าบ้านหลังเล็กๆ ในย่านอัลนาซีม สีที่ลอกร่อนบนผนังและประตูไม้ที่ผุกร่อนบ่งบอกถึงอดีตอันยาวนาน หญิงชราผู้หนึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเปิดประตูเข้ามา ไลลาแนะนำตัว และดวงตาของหญิงสาวก็เอ่อคลอไปด้วยความหวังอันเปราะบางที่เธอยึดถือมานานกว่าสิบปี “คุณเจออะไรเกี่ยวกับเธอบ้างไหม” เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันมีชีวิตอยู่มา 13 ปีแล้ว ด้วยความหวังว่าเธอจะกลับมา”


ภายในห้อง ไลลาได้พบกับภาพถ่ายเก่าๆ ซึ่งแต่ละภาพเป็นเครื่องยืนยันถึงชีวิตที่ถูกตัดทอนลง ในภาพหนึ่ง อามินาในวัยสาวยิ้มอย่างภาคภูมิใจในชุดตำรวจ จากนั้น ชายวัย 30 กลางๆ ก็เดินเข้ามาในห้อง มือที่ด้านชาบ่งบอกถึงชีวิตที่ทำงานหนัก แม่แนะนำเขาว่าชื่อซามี น้องชายของอามีนา คำถามแรกของเขาคือคำวิงวอนที่แสนเจ็บปวด “เธอยังมีชีวิตอยู่ไหม”


ไลลาเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง “สิ่งที่เราพบบ่งชี้ว่าเธอไม่ได้จากไปเอง มีหลักฐานของอาชญากรรม” ใบหน้าของแม่เริ่มบึ้งตึงขณะที่เธอเริ่มสะอื้น ขณะที่ซามีทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ “ฉันรู้แล้ว!” เขาพูดเสียงสะอื้น “อามีนาจะไม่มีวันละทิ้งหน้าที่ เธอรักงานของเธอยิ่งกว่าสิ่งใด”


ซามีเล่าถึงวันสุดท้ายที่เขาได้พบกับน้องสาวของเขา เป็นช่วงเย็นของวันที่ 3 กันยายน 1991 เธอออกไปในเครื่องแบบ บอกเขาว่าจะไปที่สถานีตำรวจเพื่อตรวจสอบรายงานบางอย่าง แต่เธอก็ไม่กลับมาอีกเลย “เราค้นหาไปทั่วแล้ว” เขาบอกกับไลลาด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ “ผู้บังคับบัญชาของเราบอกว่าเธอหนีไปกับคนรัก พลจัตวามันซูร์ อัล-โดซารีเป็นคนแพร่คำโกหกเหล่านั้น”


ครอบครัวของอามีนาไม่แปลกใจเลยที่เธอไม่กลับมา พวกเขาได้รับแจ้งว่าเธอหนีไปกับคนรัก ไลลาขมวดคิ้ว “เธอมีแฟนหรือเปล่า” ซามีส่ายหน้า “เปล่า เธออยู่คนเดียวและทุ่มเทให้กับงาน แต่สองสัปดาห์ก่อนที่เธอจะหายตัวไป เธอกระซิบอะไรบางอย่างกับฉัน เธอบอกว่าเธอเห็นอะไรบางอย่างที่อันตราย เพื่อนร่วมงานบางคนของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘ธุรกิจสกปรก’ และเธอก็มีหลักฐาน” ขณะที่ไลลาจดบันทึกทุกคำ เธอตระหนักได้ว่านี่คือจุดเปลี่ยนที่เธอตามหา หากอามินาบันทึกสิ่งที่เห็นไว้ เอกสารเหล่านั้นอาจเป็นกุญแจไขทุกอย่าง


แฟ้มเก่าและลายเซ็นที่บอกเล่าเรื่องราว


ไลลากลับไปที่สำนักงานตำรวจ คำพูดของซามียังคงก้องอยู่ในใจ จุดแรกที่เธอไปคือห้องเก็บเอกสาร เสมียนหยิบกล่องใบเล็กที่เต็มไปด้วยฝุ่นออกมา ภายใน ไลลาพบเพียงเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน้อยกว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ที่หายตัวไปมาก บันทึกย่อเหล่านั้นมีรายละเอียดสั้นๆ ได้แก่ วันที่รายงาน 3 กันยายน 2534; สถานะ การติดตามผลเบื้องต้น; ข้อสรุป การลาออกโดยสมัครใจ ไม่มีการสืบสวนภาคสนาม ไม่มีคำให้การของพยาน ไม่มีรายงานผู้เห็นเหตุการณ์ล่าสุด


ริมฝีปากของไลลาเม้มด้วยความรังเกียจ “นี่ไม่ใช่แฟ้ม” เธอพึมพำ “นี่คือการปกปิด” ท่ามกลางเอกสารเหล่านั้น มีลายเซ็นที่โดดเด่น: มันซูร์ อัล-โดซารี ชายคนเดียวกันที่ซามีกล่าวหา สิ่งที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้นคือเอกสารถูกปิดเพียง 48 ชั่วโมงหลังจากที่อามินาหายตัวไป เธอจึงเรียกเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งอยู่ในหน่วยในขณะนั้นมา เขาขยับตัวอย่างอึดอัด “เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คดีถูกปิดอย่างรวดเร็วผิดปกติ มันซูร์อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและเธอออกไปคนเดียว”


เมื่อกลับมาที่ห้องทำงาน ไลลาจ้องมองชื่อของมันซูร์ ทุกเบาะแสชี้ไปที่เขา หากอามินาเปิดเผยความลับอันตราย เขาจะเป็นผู้รับผลประโยชน์หลักจากการที่เธอเงียบหายไป แต่ไลลาต้องการมากกว่าความสงสัย เธอต้องการพยาน ใครสักคนที่อยู่กับอามินาในคืนที่เธอหายตัวไป การโทรหาฝ่ายทรัพยากรบุคคลเผยให้เห็นชื่อ

Comments