ตั้งโลงแม่ลูกคู่กัน เหตุหญิงท้อง 7 เดือน เรือล่มแม่น้ำป่าสัก สามีร่ำไห้ ขอให้ไปเป็นนางฟ้า ...


จากกรณีเรือลากจูงล่มกลางแม่น้ำป่าสัก ใกล้กับท่าเทียบเรือ ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายศิราวุฒิ หรือแมน อายุ 24 ปี คนขับเรือหนีออกมาจากเรือทัน ส่วน น.ส.เพ็ญนภาพร หรือน้ำขิง อายุ 21 ปี ภรรยานายศิราวุฒิ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน หนีออกมาไม่ทัน สูญหายไปภายในแม่น้ำป่าสัก เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ตุลาคม หน่วยกู้ภัย-นักประดาน้ำ พร้อมครอบครัวช่วยกันออกค้นหาจนพบร่างน้ำขิง ลอยอยู่ในแม่น้ำป่าสักห่างจากจุดที่เรือจมประมาณ 200 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่วัดเรือแข่ง ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ครอบครัวแยกร่างแม่และลูกออกมา ตั้งโลงศพ น.ส.เพ็ญนภาพร หรือน้ำขิง และลูกไว้คู่กัน

เมื่อนายศิราวุธเห็นร่างลูกสาวที่ตั้งใจจะตั้งชื่อว่า “น้องน้ำพั้นช์” ได้ตรงเข้าไปอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน ก่อนพาเดินไปบอกกล่าวต่อหน้ารูปภรรยาทั้งน้ำตาว่า “ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีก ขอให้นำขิงกับลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี เป็นนางฟ้าบนสวรรค์ด้วยกันนะ”

ขณะเดียวกัน นายสันทัด อายุ 42 ปี พ่อของน้ำขิง ได้เข้าไปกอดรูปลูกสาวแน่น พร้อมร่ำไห้อย่างสุดเศร้า ท่ามกลางบรรยากาศอาลัยของครอบครัวและญาติพี่น้องที่ยังทำใจไม่ได้

นางสีนวล อายุ 58 ปี ย่าของน้ำขิง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุได้พูดกับหลานสาวว่าจะพาไปซื้อเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้หลานสาวตัวน้อยที่จะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่กลับต้องสูญเสียทั้งแม่และลูกไปพร้อมกัน


นางสีนวลเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่พบร่างน้องน้ำขิง ตนกลับบ้านช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน รู้สึกเหมือนสะดุ้งตื่น และเห็นภาพน้ำขิงอุ้มลูกสาวมาหา ก่อนจะยื่นลูกมาให้ตนอุ้ม พร้อมร้องไห้และบอกว่า “หนูเสียใจ และขอให้ย่าให้อภัยสามีของน้องน้ำขิงด้วย เพราะหนูรักเขามาก” ซึ่งตนเองก็ให้อภัยและเชื่อว่าสามีของหลานรักหลานจริง


ทั้งนี้ ครอบครั้วจัดสวดพระอภิธรรม น.ส.เพ็ญนภาพร เป็นเวลา 3 วัน ณ วัดเรือแข่ง และมีกำหนดฌาปนกิจวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม

Comments